เกม Fire Emblem Shadow Dragon
เกม Fire Emblem Shadow Dragon และ The Blade of Light
ขณะที่เครื่องเล่นเกมได้รับการพัฒนาให้มีการเล่นที่สูงขึ้น แต่เกมเก่า ๆ ที่เป็นตำนานในยุค 80-90 ก็ยังไม่เสื่อมความนิยม และยังมีผู้เล่นกันอยู่อย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นเกมคลาสสิกในความทรงจำแม้จะเริ่มหาไม่ได้อีกแล้วในยุคสมัยนี้ และนึกถึงทีไรทำให้ย้อนอดีตอันแสนหวานได้ไม่รู้ลืม โดยเฉพาะที่ต้องกักตัวอยู่กับบ้าน ด้วยพิษโควิด-19 ยิ่งต้องไปค้นหามาเล่นเพื่อเป็นการแก้เซ็ง และยังทำให้ระลึกอดีตได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
บางท่านอาจหลงลืมไปบ้าง แต่ไม่เป็นไรเรามาย้อนอดีต และรื้อฟื้นความทรงจำกันหน่อยกับเกมเก่า ๆ ที่เคยเป็นเกมดัง และยอดนิยมในครั้งอดีตกลับมาคงไม่ว่ากัน ยิ่งในช่วงนี้นับว่าเป็นช่วงที่เกมเก่าจะได้กลับมาอย่างองอาจอีกครั้ง เราลองมาดูกันซิว่าจะเล่นได้สนุกเหมือนเดิมอีกหรือไม่ กับเกมเก่าในแพลตฟอร์มใหม่
เกมFire Emblem Shadow Dragon
การนำเกมเก่ามาลงในแพลตฟอร์มใหม่ เป็นการทำได้ไม่ยากเนื่องจากมีรูปแบบของเกมอยู่แล้ว และยังทำให้อย่างรวดเร็วที่สำคัญยังทำเงินได้ดีอีกต่างหากโดยเฉพาะกับคอเกมรุ่นเก่าที่ยังหลงให้เกมระบบนี้อยู่ โดยเฉพาะเกมที่เคยได้รับความนิยมมาแล้วในอดีตอย่าง Fire Emblem Shadow Dragon & The Blade of Light ที่นำมาวางขายอีกครั้งบน เครื่องเล่น Nintendo Switch การออกมาวางขายของผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์นับว่าเป็นช่วงที่ดี เพราะเป็นช่วงที่ไม่มี่เกมใหม่ออกวางตลอดในขณะนี้ ทำให้เป็นกระแสของวงการอย่างมาก ทำให้ทั้งแฟนเก่า และแฟนใหม่ตัดสินใจไม่ยากในการที่จะซื้อมาเล่น หรือมาทบทวนอีกครั้ง
เกม Fire Emblem Shadow Dragon
เกม Fire Embiem Shadow Dragon & The Biade of Light จะเป็นเกมรุ่นเก่าที่ได้ปรับปรุงให้เข้ามาเล่นในพอร์ตใหม่ แต่เสน่ห์ของมันก็ยังคงคลาสสิกอยู่เหมือนเดิม โดยยังคงมีเสน่ห์ของภาพในระบบ 8 Bit ที่คงความคลาสสิกเหมือนเดิม แต่ได้พัฒนาระบบแสงให้เข้ากับจอของโทรทัศน์ปัจจุบันได้ แม้ว่าภาพระบบ 8 บิตจะเป็นระบบภาพที่เด็กรุ่นใหม่ไม่อาจเห็นกันได้แล้วก็ตามในยุคใหม่นี้ และทำให้เด็กรุ่นในยุค 90 อาจไม่คุ้น แต่สำหรับแฟนเกมรุ่นเก่าตั้งแต่ยุค 80-90 ได้หวนกลับไประลึกความเป็นเด็กได้อีกครั้งหนึ่ง
ไม่เพียงแต่เรื่องภาพเท่านั้น ระบบเสียงและเพลงประกอบของเกมยังคงเป็นในรูปแบบเดิม ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าเมื่อได้ฟังในยุคนี้อาจดูเชย ๆ ไปหน่อย แต่เชื่อว่าผู้ที่เคยชื่นชอบเกมนี้มาก่อนก็คงยังชื่นชอบอยู่อย่างไม่เสื่อมคลาย เพราะยังเป็นรูปแบบที่คงเดิมนั่นคือการวางแผนการรบแบบเทิร์นเบส ที่ยังคงให้ความรู้สึกที่เหมือนการเล่นหมากรุก แต่เมื่อถึงบทต่อสู้ก็จะตัดฉากเข้าสู่ซีนแบบ 2 มิติทันที และทำให้เห็นตัวละครทั้งสองสู้กันอย่างจริงจังที่สุด
